Review ดูดไขมัน โดยหมอลูกหนู

Home / Review ดูดไขมัน โดยหมอลูกหนู

– – – – – – – – – – – – – – – – – –
รีวิว ดูดไขมันหน้าท้อง Body Tite โดย หมอลูกหนู Marvelous Clinic
– – – – – – – – – – – – – – – – – –

                และแล้ว  ก็ถึงเวลาบอกต่อ เพื่อนๆ ซักทีค่ะ  ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ชื่อ ตา ค่ะ  อายุ  31 ปี  เป็นคน กรุงเทพฯ ค่ะ (จริงๆ ไม่บอกก็ได้เนาะ)  ย้อนไป เมื่อ  7 ปีก่อนนะคะ  ตาเคยผ่าตัดคลอดลูก ค่ะ เพราะว่า ตาตั้งท้อง เป็นแฝด หญิงค่ะ  ทำให้ คลอดปกติ เหมือนคนอื่นเค้าไม่ได้ รวมถึงต้องคลอดก่อนกำหนดอีกด้วยค่ะ   จนทำให้ หลังจากการ ผ่าคลอดครั้งนั้น  จนถึง เมื่อ 1 เดือนก่อน (ธันวาคม 2557)  หน้าท้องของตา มีรอยแผลที่เกิดจากการผ่าคลอด บริเวณตรงกลางของหน้าท้องค่ะ (แผลแนวตั้งนะคะ)  รู้สึกน่าเกลียดมากค่ะ  และยังมีรอยแตกลาย   หน้าท้อง ก็ย้วย ห้อยลงเป็นคลื่นๆ ไม่สวยยยยยย   เห้อ!!  รู้สึกไม่ดี มากมากเลยค่ะ เพราะ ตาเป็นคนชอบแต่งตัวมากกกกกๆๆๆๆๆ ค่ะ เดือนไหนแฟชั่น เป็นยังไง ตา ต้องตามแฟชั่นตลอดค่ะ  และตาอยากจะบอกว่า ตาชอบ เสื้อครอป มากเลยค่ะ (แนวสั้นๆ โชว์สะดือ)  เพราะ ก่อนที่ตา จะแต่งงาน และได้ตั้งท้อง ตาหุ่นค่อนข้างดี ค่ะ พูดเลย J   ตาเลย  มีความคิดที่อยากจะกลับไป หุ่นดี หน้าท้องเรียบแบน เหมือนเมื่อก่อนค่ะ  เลยเริ่มต้น หาข้อมูล เกี่ยวกับ การดูดไขมัน ของคลินิกต่าง ๆ ค่ะ   รีวิว ใน pantip   ก็มีเยอะมากๆ ทั้งการ ดูดแบบธรรมดา  แบบ Vaser  และ Body Tite  ตัดสินใจยากมากจริงๆ ค่ะ  เพราะตาคิดว่า การที่เราจะทำการดูดไขมันออกนั้น  ค่อนข้างที่จะเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียวค่ะ  เลยต้องหาข้อมูลอย่างมาก ประกอบการตัดสินใจ  และเราก็ต้องเชื่อมั่นในคุณหมอ และ คลินิกนั้นๆ ด้วยค่ะ  จนวันนึงค่ะ ตาไปเดินสยาม ค่ะ บังเอิญ เห็นป้าย ๆ นึงค่ะ มาร์เวลลัส Body Tite Center  2 ลิตร ในการทำเพียงแค่ครั้งเดียว   เห้ยยยย!!!  ในใจแอบคิดว่า ใช่เหรอ ?? จริงเหรอ?? เลย กลับบ้านค่ะ หาข้อมูลอีกครั้งนึง โดยครั้งนี้ หาคำว่า “มาร์เวลลัส คลินิก”  อุปส์!!   Body Tite มาก่อนเลยค่ะ เลยเข้าไปอ่านรายละเอียดค่ะ  เค้าค่อนข้างจะให้ข้อมูลที่ครอบคลุมค่ะ และยังมีตารางเปรียบเทียบ การดูดแบบต่างๆ ด้วย  แต่ ตา ยังไม่ตัดสินใจทันทีนะคะ  ก็ยังพยายาม  อ่านรีวิว ของ มาร์เวลลัส เรื่อยๆ ค่ะ และในวันเดียวกันค่ะ ได้โทรไปสอบถามราคา  ที่ call center ของมาร์เวลลัส คลินิก  ส่วนราคาที่เราถามมาก็แรงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่เค้าคอนเฟิร์มว่าหน้าท้องแบนราบจริง ดูดออกหมดแน่  แถมไม่ต้องพักฟื้นนาน    พอฟังอย่างนี้ตอนแรกก็สองจิตสองใจเอาไงดี มันเป็นวิธีการดูดแบบใหม่    แต่ราคาก็นะ เงินที่ตั้งใจเก็บก็เกือบไม่พอ   5555   และได้แนะนำให้ไปพบแพทย์ก่อนค่ะ เพื่อจะให้ แพทย์ เป็นผู้ประเมินว่า ควรจะดูดบริเวณไหน และเปรียบเทียบราคาให้ค่ะ ตา เลยตัดสินใจไปพบแพทย์  ในวันถัดไปค่ะ
                ไปมาแล้วค่ะ ตาเข้าไปแล้วนะคะ ถามว่าตื่นเต้นไม๊ ตื่นเต้นค่ะ  นี่ขนาด แค่พบแพทย์ นะคะ หุหุ  (ก็คนยังไม่เคยทำเนาะ)  พนง. ให้การต้อนรับดีมากค่ะ ดูแลเป็นอย่างดี ทั้งๆที่ ตา เข้าไปแค่ ปรึกษา  คุณหมอน่ารักมากค่ะ (ลืมบอกไปค่ะ ว่าคุณหมอชื่อ หมอลูกหนูค่ะ)  เราก็บอกไปว่า เรามีปัญหายังไง ต้องการดูดบริเวณไหน  ถามว่า มีโรคประจำตัวหรือเปล่า  และได้วัดประเมิน มวลไขมัน โดยเครื่อง อินบอดี้  ,  สรุปตาตัดสินใจทำ 2 ส่วนค่ะ หน้าท้องบน-ล่าง  ส่วนเรื่องราคาเหรอ??? ก็เอาเรื่องเลยค่ะ  แต่ตาก็สู้ไหวค่ะ เพราะมันเป็นความตั้งใจ รวมถึง ทางคลินิก ทำให้ตา มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัยค่ะ ^^ อ้อ.. ลืมบอกไปค่ะ ว่าตายังไม่ได้ทำวันนั้นนะคะ  ตายังต้องนัดคิวค่ะ  เพราะลูกค้าคลินิกนี้ ค่อนข้างเยอะมาก  แต่ตา  โชคดี ค่ะ ที่ ได้คิวทำ อีก 1 สัปดาห์ ต่อมา (ปกติ ต้องนัดทำ ประมาณ  15 วันถึง 1 เดือนเลย) เห็นป่ะหล่ะ ว่า คลินิกเค้าลูกค้าเยอะจริงๆ   อีกอย่างค่ะ คุณหมอลูกหนูยังได้ วาดบริเวณที่จะดูด พร้อม ระบุ จุดที่จะเปิดปากแผล ให้เราเห็นก่อนทำการดูดไขมันด้วยนะคะ  ปริ้นเก็บไว้ในประวัติเรา เสร็จสรรพ เลยค่ะ
                ถึงวันที่ เราต้องมาดูดไขมันจริงๆ แล้วค่ะ   บอกได้เลยว่า ตื่นเต้นนนนนนนนนน มากกว่าวันที่ เราไปปรึกษาอีกค่ะ  มากกมายยย  ตา ได้คิวเป็นคนที่ 2  ค่ะ  นัดมาประมาณ บ่าย 2 ค่ะ คุณหมอลูกหนูได้แนะนำให้ทานข้าว ก่อนทำประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ ซึ่งตาทานแล้วเรียบร้อย พร้อมดูดแล้วค่ะ  ไปถึงที่คลินิก  พนง.  ก็ให้เราเปลี่ยนเป็นชุดคลุม ของคลินิกค่ะ หลังจากนั้น คุณหมอลูกหนู ก็เข้ามา วาด บริเวณ ที่จะดูด และจุดที่จะเปิดปากแผลอีกครั้งค่ะ  บอกเลยว่า ปลื้มมากกค่ะ  เพราะว่า คุณหมอได้ วาดแถม ให้เลยไปถึงใต้ราวนมเลยค่ะ   ขอบคุณจริงๆค่ะ

วัดสัดส่วน วัดความดัน

                ระหว่างที่รอ คุณหมอลูกหนู พนง. ก็ได้เข้ามาวัดสัดส่วน วัดความดัน  ชั่งน้ำหนัก และได้มีการถ่ายภาพเก็บไว้เปรียบเทียบค่ะ (ตอนถ่ายรูป  รู้สึกเขินค่ะ เพราะใส่แค่ จีสติง ตัวเดียว  อิอิ)  และให้กินยาแก้อักเสบ ค่ะ  แล้วหลังจากนั้น ก็พาไปห้องที่จะทำการดูดไขมันค่ะ  บอกเลยว่า ห้องเรียบร้อย และสะอาด ดูปลอดเชื้อมากค่ะ   หลังจากนั้นคุณหมอลูกหนู คนสวย ก็ได้เข้ามา ภายในห้องด้วยชุดกาว สเตอไรล์  พร้อมใส่หมวกคลุม และผ้าปิดปากค่ะ  ส่วนพนง.  ที่เข้ามาช่วยก็ใส่ชุดผ่าตัดสีเขียว  แลดู เป็นทางการมากค่ะ  ทุกอย่างดูพร้อมไปหมดเลยค่ะ    สักพัก คุณหมอลูกหนู ก็ได้เริ่มทำความสะอาด บริเวณจุดที่จะดูดไขมัน โดยใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ สีชมพู  ตามด้วยเบตาดีน สีน้ำตาลเหลืองค่ะ  

ฉีดยาชายาชา สลายไขมัน

                แล้ว คุณหมอก็ ฉีดยาชาบริเวณ จุด ที่จะเปิดปากแผล ตามด้วยเปิดปากแผล ซึ่งแผลเล็กมากๆๆๆๆๆๆ เลยค่ะ แผลเท่าขนาดของหลอดนมเด็กเลยค่ะ ตาคิดว่านะ  ^^  ตามด้วยใส่น้ำเกลือผสม ยาชา เพื่อที่ตอนสลายไขมัน กับตอนดูดไขมันออกมา จะได้ไม่รู้สึกเจ็บ  อ้อ,,, ตา รู้สึกตัวตลอดนะคะ ชิวมากค่ะ  คุยกับคุณหมอลูกหนูได้ตลอดเวลาที่ทำการดูดไขมันเลยค่ะ  สบ๊ายยยยยย!!!!   (ตา ได้  selfie  ตัวเองด้วยนะคะ)

Body Tite สลายไขมัน

                ขั้นตอนต่อไป คุณหมอก็ได้นำ หัว Body Tite สลายไขมัน ตรงบริเวณ ที่ใส่น้ำเกลือเข้าไป  ตอนนี้ จะรู้สึกอุ่นๆ ค่ะ ไม่เจ็บเลย  ประมาณ 20 นาที ก่อนที่จะดูดไขมันค่ะ และก็เริ่มดูด ซักพัก ตาก็ได้เห็น ไขมัน สีเหลืองๆ ไหลตามสายดูด ค่ะ  แอร๊ยยยยยย !! อยากจะบอกว่า  ไม่ได้น่ากลัวเลยนะคะ  สีเหลืองสวยค่ะ  แต่ก็รู้สึก ไม่อยากกินอะไรเลย แหะๆ  ไม่ได้ ขยะแขยงนะคะ  แค่ไม่อยากกลับมาอ้วนและมีไขมันอีก  เวลาก็ผ่านไป ประมาณ เกือบ ๆ  2 ชั่วโมงค่ะ เสร็จแล้วววว  ค่ะ  ไม่เจ็บเลยค่ะ  ไขมันที่ออกมาเยอะมากกก (บริเวณสีเหลืองขุ่นๆ ด้านบนนะคะ ส่วนสีแดงข้างล่าง คือ น้ำเกลือผสมเลือดที่ใส่เข้าไป เพื่อให้ไขมันแตกตัวค่ะ)  หลังจากนั้น คุณหมอลูกหนู และพนักงาน ก็ได้ช่วยกันทำความสะอาดปากแผล และบีบน้ำเกลือที่ยังคงค้างอยู่ ให้ออกมามากที่สุด  ขั้นตอนนี้ ได้ ถ่ายรูป ปากแผลไว้ ด้วยนะคะ  หลังจากนั้น ก็ทำการปิดแผล โดยใช้แผ่นซับปิดไว้ เพื่อไม่ให้น้ำเกลือที่เหลือ ซึมออกมา  ค่ะ   ใน 24 ชม. แรก หลัง ทำนั้น น้ำเกลือยังสามารถไหลออกมาได้ เป็นปกติค่ะ เพราะว่า แผลเล็กมาก เลยไม่ได้ทำการเย็บปากแผลค่ะ  ซึ่งจะให้แผลสมานติดกันเอง แล้วพนง. ก็ใช้ Elastic พัน บริเวณหน้าท้องที่ทำการดูดไขมันค่ะ  บอกได้เลยว่า สามารถเปลี่ยนชุด แล้วกลับบ้านได้เลยค่ะ ไม่ต้องนอนพักฟื้นที่คลินิกเลยค่ะ   คุณหมอลูกหนู ยังให้ยาทาน หลังจาก ทำการดูดไขมันค่ะ ก็มี ยาฆ่าเชื้อ  ยาลดบวม ยาแก้อักเสบ และยาแก้ปวดค่ะ  อ้อ ,,แล้วยังมี ชุดทำแผลปลอดเชื้อ ให้ทำความสะอาดแผลเองที่บ้านด้วยนะคะ ถ้ากรณี ไม่สะดวกให้ พนง. ทำค่ะ แล้วยังมีแผ่น รองซับ เวลาเรานั่งในรถ หรือว่านอน ด้วยค่ะ   บอกเลยว่า ปลื้มมากกกกกกค่ะ  รักเลยค่ะ  นี่เป็นรูปภาพหลังทำทันทีค่ะ เห็นไม๊ค่ะ ว่า หน้าท้องยุบลงเลย ค่ะ หน้าท้องที่เคยย้วยๆ ซึ่งเป็นผลมาจาก การผ่าคลอด ก็หายไปค่ะ  รู้สึกเป็นตัวเองอีกครั้ง

น้ำเกลือผสมเลือด
*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อายุ และการดูแลรักษาหลังทำ
ไม่ต้องนอนพักฟื้นที่คลินิก
*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อายุ และการดูแลรักษาหลังทำ

     หลังจากกลับบ้านไป ประมาณ 2 วันค่ะ ก็เริ่มใส่ชุดกระชับค่ะ  ชุดกระชับแบบครอบคลุม ถึงใต้ราวนมเลยค่ะ คุณหมอลูกหนูบอกว่า ต้องใส่ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง (ยกเว้นตอนอาบน้ำนะคะ)  ในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 เดือนค่ะ  และหลังจากนั้นใส่ประมาณ 12 ชั่วโมง อีก 1 เดือนค่ะ   นี่เป็นภาพหลังทำ ไปได้ 2 สัปดาห์ค่ะ   ปลื้มมากกกกก ขอบอกเลย,,,นี่ขนาดหลังทำไปไม่กี่อาทิตย์ ยังแบนเรียบขนาดนี้   หลังจากนี้ จะแบนเรียบ ขนาดไหน กรี๊สสสสส  ไม่อยากพูดถึงเลย  

ก่อนดูดไขมันหลังดูดไขมัน
*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อายุ และการดูแลรักษาหลังทำ

                ถ้าใครดูรีวิวแล้วชื่นชมให้กำลังใจ ตาก็ขอบน้ำใจมากค่ะ ส่วนคนที่ว่าทำไมไม่ออกกำลังกายหรือลดอาหาร นั่นนู้นนี่       คือเราลองมาหมดแล้ว แต่คุณแม่ลูกสองอย่างอิชั้นไม่สามารถลดได้จริงๆค่ะ  ที่มาทำรีวิวให้ดูก็เพื่อไว้เป็นข้อมูลแบ่งปันให้กับคนที่สนใจที่อยากหาข้อมูลเหมือนที่ตาได้หาข้อมูลก่อนทำเหมือนกันค่ะ ไม่มีดราม่า ไม่มีโฆษณา ประชาสัมพันธ์ใดๆทั้งสิ้น  เพราะความสวยย หยุดไม่ได้ เลยจะขอบอกต่อค่ะ  

การดูแลรักษาหลังทำ
*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อายุ และการดูแลรักษาหลังทำ

— – – – – – – – – – – – – – – – – –
รีวิว ดูดไขมัน เหลาแขนเรียว คุณจั้ม โดย หมอลูกหนู Marvelous Clinic
– – – – – – – – – – – – – – – – – –

     วันนี้ จั้มอยากจะมาเล่าแบ่งปันประสบการณ์ เหลาแขน ค่ะ  เพื่อนๆคงสงสัย เอ๊ะ เหลายังไง เหลาอะไร อันนี้เป็นชื่อเรียกที่จั้มตั้งขึ้นมาเล่นๆ ค่ะ อิอิ มันง่ายดี  จริงๆก็คือ การดูดไขมันค่ะ ดูดเอาไขมันส่วนเกินออกไป ปรับให้แขนเล็กลง สำหรับจั้ม เลือกเป็นการดูดไขมันด้วย เครื่องใหม่สุด คือ บอดี้ไทท์ (body tite) ค่ะ  ส่วนถามว่าต่างกับการดูดไขมันแบบอื่นยังไงอันนี้เพื่อนๆหาข้อมูลได้ไม่ยากค่ะ จัดเลยในอากู๋เยอะมากๆค่ะ ขออธิบายคร่าวคือ การดูดไขมันด้วย Body Tite แผลเล็ก ช้ำน้อย ระบมน้อย หลังทำไม่เป็นคลื่น ไม่ย้อย ไม่ย้วย ผิวเรียว และสำคัญที่สุดคือ กระชับ ค่ะ ไม่ต้องมาเข้าคอร์สกระชับซ้ำแล้ว
     ทางคลินิกและคุณหมอลูกหนู ให้คำแนะนำว่า หากต้องการให้แขนเราช้ำน้อย ให้งดอาหารเสริมต่างๆ และจำพวกวิตามินอี ซี แปะก๊วย อย่างน้อย 1 สัปดาห์ จะทำให้หลังทำการดูดไขมัน เกิดการช้ำน้อยลงค่ะ  แต่จริงๆแล้วจั้มเองก็ไม่ได้ซีเรียสกับรอยช้ำนะคะ เพราะว่าก่อนทำ ได้บอกกับที่บ้านและแฟนไว้แล้วว่าเราตัดสินใจจะทำนะ ซึ่งแน่นอนค่ะ ทุกคนก็ไม่ได้เห็นด้วยกันหมด ก็มีแย้งบาง เราก็อธิบายเหตุผลของเราไป จนสุดท้ายที่บ้านก็ยอมค่ะ วันที่ไปก็จะมีคุณแฟนไปเป็นเพื่อนค่ะ แอบตื่นเต้นเบาๆ 

ดูดไขมัน เหลาแขนเรียว

     เข้าสู่ขั้นตอนการทำกันเลยนะคะ  ก่อนที่จะทำการดูดไขมัน ก็จะมีพนง.เข้ามาทำการวัดขนาดรอบแขนเราก่อนค่ะ เพื่อที่เอาไว้เปรียบเทียบกับหลังทำ ต่อมาคุณหมอลูกหนูก็จะเข้ามาทำการระบุว่าตำแหน่งไหนบ้างที่จะดูดออกบ้าง พร้อมอธิบายวิธีดูแลตัวเองหลังทำ Body Tite ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง  เมื่อเรียบร้อยแล้วก็เตรียมตัวทานยาค่ะ ของจั้มเองจะเลือกเป็นการทานยานอนหลับค่ะ คือแอบกลัวและกังวลว่าจะเจ็บเลยไม่อยากจะรับรู้ระหว่างการทำ ซึ่งจริงๆแล้ว การดูดไขมันด้วย BodyTite จะแทบไม่เจ็บเลยระหว่างการทำแต่จั้มเองแอบกังวล เลยเลือกกินยาไปเลยค่ะ  ดั้งนั้นหลังจากกินยาไปสักพักจั้มก็หลับยาวเลยค่ะ มารู้สึกตัวอีกทีคือตอนที่พนักงานมาบอกว่า “ดูดไขมันเสร็จแล้วนะคะ เดี๋ยวลุกทำแผลกับพันผ้านะคะ”  แต่ก็ยังเบลอๆ งงๆ จำได้บ้างไม่ได้บ้าง  

ทำการวัดขนาดรอบแขน

แผลหลังทำการดูดไขมัน

     ในส่วนของแผลหลังทำการดูดไขมัน จั้มเลือกแบบไม่เย็บแผลนะคะ (คุยกับคุณหมอไว้ตั้งแต่ก่อนทำแล้ว) เพราะอยากให้แขนมันยุบบวมเร็วๆ  ระหว่างกลับบ้านก็เบลอๆ สลึมสะลือแต่เตรียมการไว้แล้วคือให้คุณแฟนมาขับรถให้เลยไม่กังวลอะไรคะ ตอนนี้เริ่มรู้สึก ตึงๆหน่วงๆ ที่แขนนิดหน่อยค่ะ แต่ก็ไม่ได้เจ็บอะไรมากค่ะ   พอกลับถึงบ้านก็มาบีบๆไล่น้ำเกลืออีกรอบค่ะ ช่วยกัน 2 คนสนุกสนานเชียว ตื่นมาตอนเช้า ที่นอนเปียกๆชื้นๆค่ะ น้ำเกลือไหลออกมาชื้นเต็มปลอกแขนเลยจ๊า  และก็มาบีบๆ ไล่น้ำเกลือกันอีก และก็ขยับแขนๆๆ เยอะๆ ทำเกลือก็ค่อยๆไหลๆ ออกมาค่ะ
     ก่อนอาบน้ำ ก็จะต้องทำการปิดพลาสเตอร์กันน้ำก่อนค่ะ แล้วก็อาบน้ำได้ตามปกติเลยค่ะ  หลังจากนั้นก็มาทำแผลด้วยชุดทำแผลแบบปลอดเชื้อที่ทางคลินิกเตรียมมาให้  วางผ้าอนามัยทับบนปากแผลเพื่อให้ซับน้ำเกลือส่วนที่เหลือ แล้วก็ปิดพลาสเตอร์ตามปกติ ค่ะ  ตามด้วยใส่ปลอกแขนกระชับไว้ตลอด คุณหมอลูกหนูบอกว่าจะทำให้แขนเราเข้าที่ได้เร็ว
     ในวันแรก จะมีอาการตึงๆรอบๆแขน เหมือนๆเราโดนกระแทกแรงๆ มีรอยช้ำๆบ้างนิดหน่อย แล้วก็จะรู้สึกเหมือนปลายมือชาๆ นิดๆค่ะ  แต่ไม่ได้ตกใจเพราะอันนี้คุณหมอจะบอกแฟนไว้ก่อนแล้วตั้งแต่เมื่อวาน หลังจากที่ทำเสร็จอาจะเกิดอาการชาๆได้ไม่ต้องตกใจ 

ใส่ปลอกแขน

     พูดถึงเรื่องปลอกแขน  มีบางครั้งนะคะ ที่จั้มแบบแอบดื้อ  ไม่ใส่บ้าง บางทีก็แบบมันอึดอัด อยากปล่อยให้มันโล่งๆบ้าง  แต่ความเป็นจริงคือ พอไม่ใส่มันทำให้รู้สึกไม่ดีกว่าตอนใส่อีก จะบอกว่ายังไงดีนะคะ คือ ตอนใส่มันเหมือนมีอะไรมาพยุงผิวเราไว้ไม่ให้มันขยับเยอะ ก็จะไม่รูสึกเจ็บ แต่พอไม่ใส่แทนที่จะรู้สึกสบายกว่า กลับเป็นว่ามันเสียวๆแปร๊บๆ แล้วก็เหมือนมันโคลงเคลงๆ มีโพรงๆในแขน คือแบบรู้สึกไม่โอเคเลย หลังจากนั้นจั้มก็ใส่ปลอกแขนตลอดๆ เลย รู้สึกดีสบายกว่าการไม่ใส่มากค่ะ  คุณหมอกำชับมาว่าหลังทำการดูดไขมันแล้วจะต้องใส่ตลอดเวลาในช่วง 1 เดือนแรก  จะทำให้แขนเราเข้าที่ได้เร็ว  ถึงแม้ว่าการทำ Body Tite จะทำให้กระชับด้วยหลังทำ เราต้องดูแลตัวเองให้ดีด้วย เพื่อทำให้ประสิทธิภาพเต็มที่ 
     ผ่านไป 3 วัน แผลจะเริ่มแห้งค่ะ ไม่มีน้ำซึมออกมาแล้วค่ะ แผลจะยังแดงๆ นิดหน่อยยังมีรอยช้ำที่แขนบ้างค่ะ ยังรู้สึกตึงๆหน่วงๆรอบๆแขน แต่ก็ขยับอะไรได้ปกติดีค่ะ

ดูดไขมัน 2 ลิตร

     ผ่านไป 1 สัปดาห์  คุณหมอก็จะนัดเข้าไปตรวจดูผลหลังทำค่ะ อันนี้จะเป็นรูปครบ 1 อาทิตย์พอดีค่ะ   สำหรับจั้มว่าแค่ผ่านไป 1 อาทิตย์ก็เปลี่ยนเยอะมาก เพราะอย่างที่ลงรูปหลังทำไว้ค่ะ คือ ไขมันจั้มออกไปเยอะมากๆๆๆ 2 ลิตรเลย  ทำให้เปลี่ยนเยอะมาก คุณหมอลูกหนูบอกว่าถ้าครบ 2 เดือน จะลงเยอะมากกว่านี้อีกนะคะ ยังไงจั้มจะมาอัพเดทให้เพื่อนๆ อีกนะคะ  

ก่อนทำ หลังทำ 01 ก่อนทำ หลังทำ 02 ก่อนทำ หลังทำ 03

— – – – – – – – – – – – – – – – – –
รีวิว หมอลูกหนู ดูดไขมัน Body Tite "ต้นขา ด้านใน+ด้านนอก"
– – – – – – – – – – – – – – – – – –

     วันนี้หมิวจะมาเล่าประสบการณ์การ ดูดไขมัน ด้วย Body Tite ค่ะ หมิวเป็นคนที่คนข้างตัวเล็กอยู่แล้วค่ะ แต่ปัญหาหนักใจที่สุดคือ “ต้นขา” เวลาใส่เสื้อผ้าแล้วไม่ค่อยมั่นใจอยากให้เรียวเหมือนสาวเกาหลี ก็เลย ตัดสินใจที่จะทำ การดูดไขมันด้วย Body Tite กับคุณหมอลูกหนูค่ะ
     ก่อนนัดวันเข้าทำ ต้องไปปรึกษาคุณหมอเพื่อคุยรายละเอียดค่ะ คุณหมอลูกหนูให้คำตอบได้ชัดเจน เคลียทุกคำตอบเลยค่ะ เดี๋ยวหมิวจะบอกเพื่อนๆ ไปเรื่อยๆนะคะ ว่าต้องทำอะไรยังไงบ้าง
     เพื่อนๆพักผ่อนให้เต็มที่เลยนะคะ ทานอาหารได้ปกติค่ะ หลังทำจะได้ไม่เพลีย ก็ทำการเปลี่ยนเสื้อผ้า วาดระบุตำแหน่ง ของหมิวจะทำเป็น “ต้นขา ด้านใน+ด้านนอก” ค่ะ เพื่อปรับให้ขาเรียวสุดๆ อันนี้จะเป็น ขาหมิวเองก่อนทำค่ะ

ดูดไขมัน ต้นขา ด้านใน+ด้านนอก

แอบแชะกับคุณหมอก่อนเข้า ดูดไขมัน คุณหมอตัวเล็กมากๆๆๆๆ ขาเรียวสวยสุดๆ อยากได้แบบนี้เลยค่ะ

แชะกับคุณหมอก่อนเข้า ดูดไขมัน

พร้อมแล้วค่ะ นี่คือเจ้าตัวเครื่องดูดไขมัน Body Tite ที่หมิวเลือกค่ะ

เครื่องดูดไขมัน Body Tite

     ตอนทำชิวมากๆๆๆ ไม่เจ็บเลยค่ะ นอนเล่นโทรศัพท์ คุยกับคุณหมอเพลินมากๆๆๆ
ผ่านไป ประมาณ 2 ชม. ก็สำเร็จแล้วค่ะ “ขาเรียว” แล้ว ดีใจมากๆๆๆๆ นี่ไง บอกแล้ว ถึงตัวเล็กๆ แต่ไขมันก็ออกมาได้เยอะเหมือนกันนะจ้ะ 

ดูดไขมัน ขาเรียว 01 ดูดไขมัน ขาเรียว 02

ทำเสร็จทางคลินิกก็จะมียามาให้ทานค่ะ ต้องทานให้ครบจนยาหมด และมาถึงการดูแลตัวเองหลังทำนะคะ 

น้ำเกลือ ยาชา 01 น้ำเกลือ ยาชา 02

     ในวันแรก ตามบริเวณที่เปิดแผล คุณหมอจะไม่เย็บปิดนะคะ เพื่อให้น้ำเกลือยาชาระบายออกได้ดีค่ะ อาจมีน้ำไหลซึมออกจากแผลเป็นสีชมพูจางๆไม่ต้องตกใจค่ะ การที่มีน้ำไหลออกทำให้ยุบบวมได้เร็วกว่าการเย็บปิดปากแผล 
     ก่อนอาบน้ำจะต้องทำการใช้พลาสเตอร์กันน้ำปิดก่อนนะคะป้องการแผลเปียกชื้นและป้องกันเชื้อโรคด้วยค่ะ หลังจากนั้นให้ทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเกลือและใส่เบตาดีนค่ะ ตามด้วยการใช้ผ้าอนามัยปิดเพื่อซับน้ำที่จะไหลออกมาเรื่อยๆค่ะ แต่หากแผลไม่มีน้ำไหลแล้วก็ใช้ผ้าก๊อซปิดแทนได้เลย ย้ำเลยนะคะ ห้ามให้แผลชื้นแฉะเด็ดขาดเลยนะคะ 

ผ้าก๊อซ ปิดแผล ทำความสะอาดแผล ใส่เบตาดีน

     หลังทำ 1 วัน  ขาด้านในมีรอยช้ำบ้างค่ะ แต่ถือว่าน้อยกว่าการดูดไขมันด้วยเวเซอร์ (vaser) ที่จะทั้งช้ำและระบบมากกว่านี้มาก

ขาด้านในมีรอยช้ำ ช้ำและระบม

     ข้อสำคัญ จะต้องใส่กางเกงกระชับตลอดเวลาค่ะ ยกเว้นตอนอาบน้ำ ของหมิวจะเลือกมา 2 แบบ ค่ะ คือ กางเกงแบบขาสั้นและขายาว   

กางเกงกระชับ 01 กางเกงกระชับ 02

     หลังทำ 3 วัน  ข้าด้านในยังมีรอยช้ำอยู่บ้างค่ะ แต่ไม่เจ็บหรือระบมมากเท่าไร ยังสามารถเดินใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติทุกอย่างเลยค่ะ 

หลังทำ 3 วัน 01 หลังทำ 3 วัน 02 หลังทำ 3 วัน 03

     ในรูปเปรียบเทียบระหว่างก่อนทำ กับ หลังทำ 3 วันค่ะ ขนาดแค่ 3 วัน ลงไปเยอะมากกก คุณหมอบอกว่าถ้าครบ 1 เดือน จะลงได้ชัดเจนมากกว่านี้อีกเยอะค่ะ

เปรียบเทียบระหว่างก่อนทำ กับ หลังทำ

     หลังทำ 5 วัน  แผลแห้งปิดสนิทแล้วค่ะ รอยช้ำลดลงเยอะมากแล้วค่ะ แต่ตอนอาบน้ำหมิวก็ยังใช้พลาสเตอร์กันน้ำปิดนะคะ ไม่อยากให้แผลโดนน้ำ แอบกลัวรอยแผลเป็นเดี๋ยวแผลไม่สวย (อิอิ) 

หลังทำ 5 วัน 01 หลังทำ 5 วัน 02 หลังทำ 5 วัน 03

ครบ 1 สัปดาห์  ดูเพรียวขึ้น  ปลื้มมากค่ะ  เดี๋ยวยังไงหมิวจะมาอัพเดทผลให้เรื่อยๆ นะคะ 

ครบ 1 สัปดาห์  ดูเพรียวขึ้น

 

รีวิว หมอลูกหนู ดูดไขมัน…คุณผู้ชาย กับคุณเบิร์ด

ดูดไขมันกับคุณเบิร์ด

 ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็สามารถที่จะเลือกดูแลรูปร่างของตัวเองให้ดูดีขึ้นได้ค่ะ
เหมือนกับคุณเบิร์ด ที่เลือกไว้ใจมาให้ "คุณหมอลูกหนู" ดูแล
การดูแลหลังทำกับคุณเบิร์ด
 **ผลการรักษาขึ้นอยู่กับบุลคล อายุ และการดูแลหลังทำ**

คุณเบิร์ดมีปัญหา "หน้าท้อง" ส่วนเกิน เลื่อก "ดูดไขมัน" เพื่อรับสรีระให้ดูดีขึ้น แล้วมาติดตามกันนะคะว่า
การดูดไขมันของคุณผู้ชายจะเป็นอย่างไรติดตามได้ในคลิปด้านล่างเลยค่ะ

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อายุ และการดูแลรักษาหลังทำ

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อายุ และการดูแลรักษาหลังทำ

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อายุ และการดูแลรักษาหลังทำ

*ผลการรักษาขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล อายุ และการดูแลรักษาหลังทำ